เที่ยวใกล้บ้าน ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา

ณ. วันที่เขียนบทความนี้ เป็นช่วงที่โรค Covid-19 กำลังระบาดในเมืองไทย ทำให้สาวกไบค์เกอร์อย่างเราต้องงดเดินทางเที่ยวกันเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและเพื่อรัดเข็มขัดตัวเองเช่นกัน ตามสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดต่อ เรียกได้ว่างดการเดินทางข้ามจังหวัดจะเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามเราต้องมีเวลาให้ตัวเองและพักผ่อนจากการทำงานซึ่งมันก็ยังทำได้หากเรามีการวางแผนและศึกษาหาแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดตัวเอง หรือในพื้นที่ใกล้ตัวเรา ซึ่งในบทความนี้เรายกตัวอย่างการเที่ยวแนวแคมป์ปิ้งใกล้บ้านซึ่งสามารถทำได้และได้บรรยากาศไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวดังๆในต่างจังหวัด ข้อดีของการเที่ยวใกล้บ้านมีอะไรบ้านมีอะไรบ้าง

อย่างแรกเลยก็เรื่องการวางแผนการเดินทางและจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและอาหาร ที่ทำได้ง่ายมากๆ เพราะเส้นทางที่เราจะใช้ในการเดินทาง เราคนพื้นที่รู้เส้นทางเป็นอย่างดีเรียกว่าไม่ต้องวางแผนอะไรเลยแค่นัดกันที่จุดนัดพบก่อนไปยังสถานที่ที่เราจะแคป์ปิ้งเท่านั้น ส่วนสิ่งของเครื่องใช้ก็หาง่าย (ถ้าลืมก็วิ่งกลับบ้าน ฮ่าๆ)  ส่วนเรื่องอาหารสบายมากเพราะจะมีตลาดใกล้ๆ

งบการเดินทางสำหรับทริปกางเต้นท์ชิวๆ เรียกว่ากำเงินหลักร้อยก็ออกทริปได้เลย อย่างทริปนี้เราใช้เงินประมาณ 200-300 บาทต่อคนก็เพียงพอ เงินจำนวนนี้แยกเป็นค่าน้ำมัน 60 บาท ที่เหลือก็ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนใครจะจิบเบียร์ก็อาจจะมีเพิ่มนิดหน่อยก็ประมาณไม่น่าเกิน 500 บาท

ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุนชนในท้องถิ่น เราเที่ยวบ้านเราจังหวัดเรา ช่วยให้คนในพื้นที่มีรายได้ครับ ข้อนี้เองก็สำคัญในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดต่อ

ไม่ต้องแยกใครเที่ยว อันนี้ดีมากครับ เราไม่จำเป็นต้องไปในสถานทีที่มีคนเยอะ แยกกันเที่ยว ซึ่งมันแออัดมาก คนเยอะจนหาความเป็นส่วนตัวไม่ได้ แยกกันกิน แยกกันหาที่กางเต้นท์ แถมเสี่ยงโรคอีก

ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวภายในจังหวัดหรือชุนชนของเราเอง และทำให้คนอื่นรู้จัก มีดีต้องอวดบ้างว่า บ้านเราเองก็มีที่เที่ยวที่มีดีและมีบรรยากาศดีไม่แพ้ที่อื่น

สุดท้ายแล้วนะครับ เราไม่ควรลืมเรื่องความสะอาดและขยะจากการการเต้นท์และค้างแรมของเรา ก่อนเคลื่อนย้ายออกจากจุดท่องเที่ยว ควรทำความสะอาดและเก็บขยะให้เรียบร้อย เราจะได้มีที่กางเต้นท์สวยๆ บรรยากาศดีๆตลอดไป