ช่องเย็น เย็นจริงดีต่อใจไม่ต้องรอถึงหน้าหนาว

เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน แต่ถ้าอยากจะหนีความร้อนไปนอนมุดถุงนอนช่วงเดือนมีนาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะมีอีกหนึ่งสถาณที่ๆเหมาะกับการหนีร้อนมานอนแบบเย็นๆ วันนี้พวกเราจะพาไปไม่ต้องรอหน้าหนาวและไม่ต้องไปถึงภาคเหนือ ที่นี่คือ ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร

พวกเราเดินทางจากพัทยาในช่วงกลางดึกของวันหนึ่ง ระยะทางจากพัทยามาที่ปลายทางของเราประมาณ 500 กิโลเมตร กับการเดินทางเป็นกลุ่มจึงต้องความเร็วที่ไม่เร็วไปเพื่อเดินทางไปพร้อมๆกันเราเลยเลือกที่จะเผื่อเวลาในการเดินทางให้มากจะได้ไม่กดดันในการต้องขับขี่มากนัก อยากแวะก็แวะ หิวก็จอด ไม่ใหวก็พักเอาเพราะจุดหมายปลายทางไม่ได้ย้ายหนีเราไปใหน

การเดินทางครั้งนี้เราใช้เส้นทางผ่านมาที่ จังหวัดอุทัยธานี เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากถนนเส้นหลักของสายเอเชียโดยใช้ถนนหมายเลข 333 เข้ามายังตัวเมืองอุทัยธานีในยามเช้าตรู่ของวัน เราขึ้นไปบนเขาสะแกกรังชมภาพความเป็นอยู่ที่เรียบงายในตัวเมืองต่างจังหวัดกับความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่ล้อมรอบตัวค่อยๆปลุกเราให้ตื่นจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอย่างช้าๆ เช้าแล้วคือสัญญาณของการเริ่มวันใหม่เราจึงเริ่มด้วยการไปในที่ๆเรายังไม่เคยไปและใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพักในบริบทที่ต่างจากที่ๆเราจากมาซึ่งเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ได้อย่างดี

กินกาแฟยามเช้าที่ร้าน มุมสะแก ริมแม่น้ำสะแกกรัง ตัวเมืองอุทัยธานี นั่งมองภาพวิถีชีวิตชาวตลาดเทศบาลยามเช้ากับกาแฟแก้วโปรดรสชาติเข้มๆหอมกรุ่นจากนั้นเราก็มุ่งหน้าเดินทางไปทางอำเภอลานสักแวะพักผ่อนอีกสภาณที่ที่มีความสวยงามแปลกตาหลายๆคนเรียกที่นี่ว่าสวิสเซอร์แลนด์เมืองไทยซึ่งจะสวยงามมากกว่านี้ถ้าเราได้เดินทางมาช่วงปลายฝนต้นหนาว วันนี้เราจึงเก็บภาพบางส่วนมาให้ชมแล้วเดี๋ยวถึงช่วงนั้นเราก็จะแวะกลับไปอีกครั้ง จังหวัดอุทัยธานีเป็นจังหวัดที่เมื่อครั้งในอดีตมีความอุดมสมบูรณ์มากมาจนถึงปัจจุบันมีสถาณที่อีกมากมายให้ท่องเที่ยวถ้าเพื่อนๆมีโอกาสก็อย่าลืมแวะไปสักครั้งส่วนพวกเราคงต้องกลับไปเที่ยวที่อุทัยอีกแน่นอน

จากอุทัย เราสามารถเดินทางมายัง นครสรรค์ ได้ด้วยถนน ทางหลวงชนบทหมายเลข 3504 เชื่อมต่อ ถนนกับหมายเลข1072 ยาวมาจนถึงอำเภอคลองลาน สองข้างทางก็จะมีภูเขาทุ่งนาของชาวบ้านเป็นเพื่อนเดินทางของเรา อำเภอคลองลาน จะเป็นทางแยกเพื่อเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และที่ คลองลาน ก็เป็นที่เราใช้เติมเสบียงของคืนนี้ก่อนที่จะเดินทางขึ้นสู่ ช่องเย็น ซึ่งเป็นปลายทางของเราในวันนี้อีกแค่อึดใจเท่านั้น จากแยก คลองลาน เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เส้นทางเริ่มคดเคี้ยวพวกเราเริ่มตื่นเต้นกับบรรดาโค้งเล็กใหญ่ที่เราผ่านไปทีละโค้งๆ และสองข้างทางนั้นเต็มไปด้วย หมู่แมกไม้เราค่อยๆสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ที่เราสัมผัสได้จากกลิ่นของอากาศหัวใจเราค่อยๆพองโต

การจะขึ้นไปพักบน ช่องเย็น นั้นเราสามารถ กางเต็นท์นอน หรือ จองห้องพักของทางอุทยานก็ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติ ค่าใช้จ่ายในการเข้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์นั้นจะเสียเป็นรายบุคคลรวมค่ายานพาหนะเพื่อเข้าสู่อุทยาน จากนั้นเมื่อเราเข้าไปลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียนนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะพักแรมก็จะมีค่ากางเต็นท์เป็นรายบุคคลอีกเช่นกันเมื่อลงทะเบียนจนเสร็จก็ถึงช่วงสุดท้ายของการเดินทางคือการขึ้นสู่จุดกางเต็นท์นั่นเอง

เส้นทางที่ขึ้นสู่จุดกางเต็นท์นั้นเป็นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยวสภาพเส้นทางค่อนข้างดีทางอุทยานได้ปรับปรุงสภาพพื้นผิวของถนนและเส้นทางใว้เรียบร้อยเกือบจะเสร็จสิ้นตลอดเส้นทางแล้วคงเหลือแค่บางช่วงที่พื้นผิวนั้นชำรุดบ้างแต่ก็แค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น การขับขี่ก็ควรขับด้วยความระมัดระวังเพราะเป็นทางที่ชันและมีโค้งแคบโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็อาจจะมีได้ถ้าเราเดินทางด้วยความประมาท สองข้างทางมีจุดชมวิวเป็นระยะเราขับไปแวะไปเพราะอดใจกับความสวยงามของสองข้างทางไม่ได้จริงๆ

“ธรรมชาติคือความงามที่แท้จริง โดยไม่เรียกร้องความสนใจ”

โค้งแล้วโค้งเล่าที่เราผ่านมาจนมาถึงปลายทางของวันนี้ จุดชมวิว ช่องเย็น เวลาบ่ายแก่ๆกับอุณหภูมิที่ค่อยๆลดลงตอนนี้อากาศค่อนข้างสบายตัวไม่ร้อนแต่ก็ไม่ถึงกับเย็น ก่อนที่เราขึ้นมาที่นี่เราสอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับอุณหถูมิของวันนี้ซึ่งคาดว่าจะต่ำกว่า20องศาก็ถือว่าเย็นสบายมากแล้วกับช่วงนี้ ขึ้นมาถึงที่นี่เราเจอกับนักท่องเที่ยวต่างชาติสองคนที่มาอยู่ที่นี่ก่อนเราแล้วเลยถือโอกาสเข้าไปทักทายและทำความรู้จักใหนๆคืนนี้เราจะได้นอนที่เดียวกัน สองคนนี้เป็นชาวเยอรมันที่กำลังจะเดินทางรอบโลกด้วยรถตู้คันเก่งของเขาซึ่งแปลงร่างเป็นรถคาร์แคมป์ที่สวยงามถูกใจพวกเรามากๆจากนั้นเราจึงแยกย้ายไปกางเต็นท์ของเราเพื่อพักแรมในคืนนี้

เมื่อถึงช่วงเย็นเราไปอาบน้ำที่เย็นเฉียบบน ช่องเย็น เพื่อความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเตรียมตัวพักผ่อนเอาแรง อาหารเย็นในแคมป์ที่เราหลายคนช่วยกันทำเมนูแล้วเมนูเล่ายกมากินกันไม่ขาดสาย อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆเราชวนเพื่อนใหม่ชาวต่างชาติมากินข้าวและพูดคุยกันเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีมากครั้งหนึ่งที่เราเคยได้สัมผัสเลยทีเดียว

“เขาว่ากันว่าการได้แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ หรือแม้แต่ความรู้สึก ก็สามารถเป็นบทเรียนที่ดีให้กับคนอื่นได้ ผมรู้สึกเห็นด้วยกับข้อความนี้”

ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันหลังอาหารเราชักชวนกันว่ายามเช้าเราอยากจะทำอะไรให้เพื่อนใหม่ของเราทั้งสองสำหรับมิตรภาพใหม่ๆที่เกิดขึ้นก่อนที่เราจะแยกย้ายกันเข้านอน

เช้าวันใหม่ที่ช่องเย็น เมื่อคืนอุณหภูมิอยู่ที่16องศา เรามุดอยู่ภายใต้เสื้อหนาวและถุงนอนของเราและหลับอย่างเต็มอิ่มจนเช้านี้ไม่มีใครบ่นว่าง่วงเลยทีเดียว น้ำค้างเกาะอยู่ตามเต็นท์เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาอากาศชื้นแค่ใหน ก็เป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกันที่ตอนเรามาเที่ยวเรากลับตื่นแต่เช้าอย่างไม่อิดออดต่างจากวันที่เราไปทำงานแม้ว่าจะเช้ากว่าวันที่เราเคยตื่นมาเลยก็ตาม ข้อนี้น่าคิด ผมรีบตื่นมารับอากาศที่สดชื่นยามเช้าก่อนจัดแจงล้างหน้าล้างตาในน้ำที่เย็นจนเหมือนน้ำในกระติกน้ำแข็ง จากนั้นรีบทำสิ่งที่ผมรักรองมาจากการเดินทางนั่นคือกาแฟ อากาศดีๆวิวสวยๆกับกาแฟสักแก้วแค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดของการเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีความสุขแล้วถึงแม้ผมเองจะรู้ว่ามีการเดินทางอีกยาวใกลรอเรอยู่

สิ่งที่เราจะทำให้เพื่อนใหม่ชาวเยอรมันทั้งสองนั้นคือกาแฟที่ผมเตรียมมา เป็นกาแฟพิเศษเหมาะกับช่วงเวลาพิเศษๆแบบนี้ที่สุดแล้ว กาแฟดริป กับชาวเยอรมันจริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่คู่กัน เพราะชาวเยอรมันนี่แหละที่เป็นผู้ค้นพบการชงกาแฟแบบฟิลเตอร์ในอดีตจนเป็นที่นิยมเรื่อยมาถึงปัจจุบันนี้ เราก็ไม่รู้เลยว่าทั้งคู่นั้นทำสิ่งเดียวกันให้เราด้วยเช่นกัน การพบกันของเราถึงแม้มันจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญแต่การที่เราได้ทำความรู้จักและแลกเปลียนกันนั้นเป็นความตั้งใจของเรา จากเป้าหมายที่เราต้องการมาพักผ่อนหนีร้อนจากชลบุรีมาที่นี่ เราได้พบความงดงามของธรรมชาติที่เราต่างอยากสัมผัสแบบไกล้ชิด เราได้มิตรภาพทั้งจากพวกเราเองที่ได้ใช้เวลาร่วมกันจากเพื่อนฝูงและครอบครัวที่ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นและเพื่อนใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้ยืนยันกับเราว่ามันคุ้มค่าแค่ใหนกับการที่เราออกเดินทางในแต่ละครั้ง สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในความทรงจำของเราไปตราบนานเท่านานนั่นคือสิ่งที่เราได้หยิบฉวยกลับมาจากการมาเยือนในครั้งนี้

สักวันบนถนนสักสายหรือเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเราอาจได้ร่วมทางกัน

รอฟิก Taste Ride “ออกตามหานักเดินทางในตัวคุณ”

ความเห็นของ Taste Ride
Budget งบประมาน : 2500กินอยู่แบบราชา
Duration ระยะเวลา : สองวันหนึ่งคืน
Highlight ความสวยงาม : เส้นทางสวยๆ จุดกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติ อุณหภูมิต่ำกว่า20องศา
Skill Levelความยาก : มือใหม่ไปได้แต่ต้องระมัดระวังช่วงที่เดินทางขึ้นสู่จุดกางเต็นท์เพราะเป็นเส้นทางสูงชันคดเคี้ยวไม่ควรประมาท

เพิ่มเติม : ที่ช่องเย็นจะเข้มงวดเรื่องวินัยเป็นอย่างมากเข้าออกลงทะเบียนให้ถูกต้องตามที่ทางอุทยานกำหนด และที่นี่มีสัตว์ตัวอันตรายตัวเล็กๆตัวหนึ่งชื่อว่าเจ้า คุ่น เจ้าตัวนี้จะพบเจอเขาได้ก็แค่ในที่ๆธรรมชาติบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์เท่านั้น เขาเป็นสัตว์รบกวนชนิดหนึ่งเราควรเตรียมยากันยุงมาเพื่อป้องกันการที่เขาจะมากินเลือดเราเพราะถ้าเราเกิดอาการแพ้ก็จะไม่เป็นผลดีกับเราแน่นอน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here