Story เรื่อง : ฟิก รอฟิก แคมเปอร์ ทีเอช
Photos ภาพ :Thitiphan Rainthaisong
จากเมล็ดของผลไม้ชนิดหนึ่งรสชาติที่น่าทึ่งนำพาพวกเรามายังที่นี่ “ บ้านมณีพฤกษ์ “ ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือหมู่บ้านแห่งนึงที่อยู่บนภูเขาของจังหวัดน่าน เรารู้จักที่นี่เพราะรสชาติของกาแฟที่น่าทึ่ง ทำไมมันจึงต่างจากกาแฟที่เราเคยกินและที่มาของรสชาติเหล่านี้มันมาจากใหนตอนนี้เรากำลังจะได้คำตอบ
การเดินทางสู่บ้านมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน พวกเราเลือกใช้ถนนสายเอเซียจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสิงห์บุรีเพื่อตัดเข้าสู่ถนนสาย11ที่ใช้เลี่ยงความแออัดของสายเอเซียตัดผ่านระหว่างสิงห์บุรี นครสวรรค์ พิจิตร และพิษณุโลก เนื่องจากช่วงนี้ถนนเส้นนี้มีการปรับปรุงสภาพพื้นผิวจึงไม่ค่อยดีนัก
แต่เจ้าcb150rก็พาเราผ่านสภาพพื้นผิวที่เสียหายไปได้อย่างไม่ยากเย็น ความเร็วที่ใช้ในการเดินทางประมาณ100-110กิโลเมตรต่อชั่วโมงกับถังน้ำมันที่จุแปดลิตรกว่าๆ เราเติมน้ำมันจากอยุธยาแล้วมาหยุดเติมอีกครั้งที่พิษณุโลกเพื่อเดินทางมุ่งหน้าขึ้นไปยังจังหวัดต่อไป
จากจุดนั้นสภาพเส้นทางเป็นทางตรงยาวๆไปจนถึงตัวจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นช่วงที่เราใช้ความเร็วได้มากขึ้นยาวไปจนถึงรอยต่อเข้าสู่จังหวัดแพร่เริ่มเป็นเส้นทางขึ้นและลงภูเขาเริ่มมีฟีลลิ่งเข้าโค้งไห้เพลิดเพลินกับการเอียงตัวเข้าโค้งพอสนุกในช่วงเขาพลึงเพื่อเข้าสู่อำเภอเด่นชัย
“สำหรับผม เราขับรถเพื่อไปหาช่วงเวลาที่ดีที่สุด ไม่ใช่ ออกไปทำเวลาให้ดีที่สุด”
จังหวัดแพร่ประตูสู่ล้านนาเราถึงสามแยกเด่นชัยแล้วเลี้ยวขวามุ่งหน้าเข้าจังหวัดแพร่และน่านเป็นลำดับต่อไป ถึงจุดนี้ตัวเมืองจังหวัดแพร่ขับขี่แบบสบายๆและแวะเติมน้ำมันกันอีกครั้งจนข้ามเขาจากแถบร้องกวางจนมาถึงตัวจังหวัดน่านช่วงนี้ถนนมีสภาพที่ดีมากขับได้เพลิดเพลินไม่กี่อึดใจเราก็ถึงตัวเมืองน่านกันแล้ว จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ สภาพการจราจรไม่ถึงกับติดขัดมากนักแต่ตัวเมืองไม่ใช่จุดหมายของเราในการเดินทางครั้งนี้
เรามุ่งหน้าสู่อำเภอท่าวังผาการขับรถมาเจอสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากเมืองมาเป็นสองข้างทางที่มีธรรมชาติอยู่เต็มสองข้างทาง หัวใจของเราตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆบนเส้นทางที่เราจะได้พบเจอ ไม่นานนักจากท่าวังผามายังอำเภอปัวภาพภูเขาและนาข้าวที่อยู่เบื้องหน้าของอำเภอปัวเป็นที่จดจำ เรามาที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ภาพของปัวก็ยังคงสวยงามเหมือนเช่นเคย การใช้รถใช้ถนนตามต่างจังหวัดเราเป็นผู้มาเยือนควรใส่ใจกับสภาพแวดล้อมรอบข้างของที่ๆเรากำลังจะผ่านไป
เนื่องจากการใช้รถใช้ถนนของผู้คนอาจจะไม่เหมือนในเมืองดังนั้นเราไม่ควรประมาทและเคารพสถาณที่นั้นๆใช้ความเร็วไห้พอเหมาะเผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจากการใช้รถใช้ถนน จากปัวขึ้นมาอีกนิดมายังเชียงกลางขึ้นมาสักพักจะเจอกับบ้านนาหนุนไห้เราเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนชนบนลาดยางสายเล็กๆเส้นนี้ที่จะพาเราใต่ความสูงขึ้นมาสู่ปลายทางคือบ้านมณีพฤกษณ์จังหวัดน่านที่เราตั้งใว้
บนบ้านมณีพฤกษณ์ มีความสงบและสภาพอากาศที่ดีเนื่องจากอยู่บนพื้นที่สูงอากาศจึงเย็นสบาย ที่นี่ขึ้นชื่อมากเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและสิ่งที่ชาวบ้านมณีพฤกษ์สรรสร้างซึ่งเป็นพืชผลทางการเกษตรทั้งขิง พริกยักษ์ หรือกาแฟซึ่งเป็นสิ่งที่นำพาเรามายังที่นี่
เราสามรารถหากาแฟดื่มได้ง่ายดายแถมมีรสชาติที่ดีเพราะความใส่ใจในการปลูกและแปรรูปทุกขั้นตอนจนเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ มีกิจกรรมให้เราทำและเรียนรู้อยู่รอบหมู่บ้านและเป็นโอกาสที่ดีหากได้มาพักผ่อนใช้เวลาอยู่มี่นี่สักสองหรือสามวันมาอยู่กับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายท่ามกลางสิ่งแวดล้อมดีๆและธรรมชาติที่สวยงามเพื่อชาร์จแบตที่อ่อนล้าของชีวิตที่เร่งรีบในสังคมเมือง
เรียนรูวิถีที่พึ่งตนเองมากกว่าใช้เงินเพื่อเป็นทางออกในการดำรงชีวิตและที่สำคัญมิตรภาพดีๆที่เราสามารถหาได้ทุกหนแห่งเพียงแค่เราเปิดใจรับมิตรภาพไหม่ๆเข้ามา สักวันบนนถนนสักสายหรือเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเราอาจได้ร่วมทางกัน ค้นหาความเป็น “นักเดินทาง” ที่อยู่ในตัวคุณ
“ออกตามหา นักเดินทาง ในตัวคุณ”
Destination ปลายทาง: น่าน มณีพฤกษ์
Highlight จุดไฮไลท์ : บรรยากาศฟิน สงบ วิวสวย กาแฟ Specialty ท้องถิ่น ปลูก คั่ว จบที่เดียว
GPS พิกัด : google map link
Distance ระยะทาง: 760km จาก กทม
Budget งบเดินทาง: 1,500฿ / 1 Rider นอนเต็นท์ที่เตรียมไปเอง
Duration ระยะเวลา: 2 วัน 1 คืน
Skill Level ความยาก: มือใหม่ขับขี่ระมัดระวังทางโค้งทางลาดชัน, มือเก๋าอย่าประมาท Landscape View วิวทิวทัศน์: สวยเวอร์